ผู้ชายอาจจะหายจากโรคไข้หวัดใหญ่เร็วกว่าผู้หญิงเนื่องจากร่างกายของพวกเขาผลิตแอมฟิเรกูลีนซึ่งเป็นโปรตีนที่มีความสำคัญในการบำบัดรักษาปอด นี่คือผลจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ที่Johns Hopkins Bloomberg School of Public Health ซึ่งได้ค้นพบจากการศึกษาหนูตัวผู้ซึ่งได้รับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่แล้วมีการผลิตโปรตีนแอมฟิเรกูลีนซึ่งช่วยในการบำบัดรักษาปอด
การค้นพบนี้ได้ถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ภายใต้หัวข้อชีววิทยาว่าด้วยเรื่องความแตกต่างทางเพศ โดยมีการนำหนูตัวผู้และเซลล์ของมนุษย์เพศชายที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มาทดลอง และพบว่าเซลล์ทั้งสองมีการผลิตแอมฟิเรกูลีนซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยในการรักษาบาดแผล
นักวิจัยกล่าวว่า เมื่อเทียบกันระหว่างเพศแล้ว ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นไข้หวัดรุนแรงและหายช้ากว่าผู้ชายแม้ในระดับความรุนแรงของไวรัสซึ่งมีระดับเดียวกัน
ร.ศ ดร. ซาบรา ไคลน์ จากภาควิชาจุลชีววิทยาโมเลกุล และ ภูมิคุ้มกันแห่ง บลูมส์เบอร์ก ผู้วิจัยอาวุโส กล่าวว่า “มีการค้นพบใหม่นั่นคือ ผู้หญิงซ่อมแซมเนื้อเยื่อช้ากว่าในระหว่างการฟื้นตัว ทั้งนี้เนื่องมาจากมีการผลิตแอมฟิเรกูลีนอยู่ในระดับต่ำ”
โดยนักวิจัยมุ่งประเด็นไปที่การบำบัดรักษาไข้หวัดใหญ่แบบใหม่ที่เพิ่มการผลิตแอมเฟริกูลีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิง ดร. ไคลน์กล่าวเสริม
ในการศึกษานี้ ดร.ไคลน์ และทีมงานได้นำหนูทดลองไปรับเชื้อ H1N1 สายพันธุ์ A ในขนาดที่ไม่ทำให้ถึงตาย ซึ่งสายพันธุ์นี้ระบาดในช่วงปี 2009-2010 และคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 18,000 คน จากการสังเกตอาการพบว่า แม้ว่าหนูทั้งเพศผู้และเพศเมียจะได้รับไวรัสดังกล่าวในปริมาณที่เท่ากันภายใต้ระยะเวลาเดียวกัน แต่หนูเพศเมียทรมานจากการติดเชื้อมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ พวกมันสูญเสียมวลในร่างกายและมีการอักเสบของปอดมากกว่าในช่วงติดเชื้อรุนแรง และฟื้นตัวช้ากว่า โดยนักวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าแอมเฟริกูลีนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความแตกต่างดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้นหนูตัวผู้ที่ได้รับการปรับแต่งพันธุกรรมให้ขาดแอมเฟริกูลีนก็มีการติดเชื้อรุนแรงและหายช้าเช่นเดียวกับหนูตัวเมีย
คณะทำงานพบว่าการติดเชื้อของหนูและเซลล์เยื่อบุผิวในปอดของมนุษย์ในจานเพาะเชื้อจะทำให้เกิดการผลิตแอมเฟริกูลีนก็ต่อเมื่อเป็นเซลล์จากเพศชายเท่านั้น ข้อมูลที่ว่า แอมเฟริกูลีนช่วยทำให้การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หายเร็วขึ้นทำให้เกิดกลยุทธ์ทางการรักษาไข้หวัดใหญ่ขั้นรุนแรงแบบใหม่ ดร.และทีมงานได้แสดงให้เห็นจากการศึกษา เมื่อปี 2006 ว่า ฮอร์โมนเพศโพรเจสเตอโรนช่วยกระตุ้นการผลิตแอมเฟริกูลีนในหนูเพศเมีย เขากล่าวว่า “เราพบว่าการเพิ่มการผลิตแอมเฟริกูลีนในเพศหญิงจะทำให้หายจากไข้หวัดใหญ่เร็วขึ้น”
อย่างไรก็ดีนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถยืนยันได้ว่าทำไมเพศชายถึงได้ต้านเชื้อของไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่า และมันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าปัจจัยใดเป็นตัวผลักดันให้เกิดการผลิตแอมเฟริกูลีนที่มีระดับสูงในเพศชายระหว่างการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ดร.ไคลน์และคณะทำงานได้ตั้งข้อสงสัยในเบื้องต้นว่า อาจเป็นเพราะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน แต่ก็พบว่าฮอร์โมนดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวควบคุมระดับของแอมเฟริกูลีน อย่างไรก็ดีพวกเขาพบว่าฮอร์โมนเพศที่มีแอมเฟริกูลีน ช่วยปกป้องหนูเพศผู้จากการได้รับเชื้อ
ขณะนี้ห้องแลปของดร.ไคลน์กำลังสำรวจกระบวนการทำงานของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ในแง่เป็นตัวช่วยปกป้องและเป็นปัจจัยที่ควบคุมการผลิตแอมเฟริกูลีนในระหว่างการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเรื่อง “การผลิตแอมเฟริกูลีนและการหายจากไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีในเพศชายมากกว่าเพศหญิง”นั้น ได้ถูกเขียนขึ้นโดยนักวิจัยหลายคนรวมทั้งดร.ไคลน์ด้วย
SOURCE: https://www.sciencedaily.com